ใครที่กำลังจะตบเท้าเข้าวงการความงาม อยากเปลี่ยนตัวเองให้มีความมั่นใจ ปรับ เติม แก้ กลบ ร่องรอย ร่องลึกให้เรียบเนียนแต่งบน้อย ต้องฟังทางนี้ เพราะเราจะมาบอกต่อ 3 จุดเติมฟิลเลอร์ให้สวยละมุน เพียง 1 CC ก็สามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน! อ่านจบแล้ว ต้องรีบกำแบงก์เทาไปเข้าคลินิกด่วน

  1. หน้าเรียวทันใจ ต้องเติมฟิลเลอร์คาง

จุดแรกที่ใช้ฟิลเลอร์น้อยแต่เห็นผลชัด แถมยังมีผลต่อการปรับรูปหน้าแบบชัดเจน เหมาะมาก ๆ สำหรับผู้ที่อยากมีใบหน้าเรียว วีเชฟ แต่ฉีดแฟตก็แล้ว โบกรามอีกก็ยังไม่ได้เท่าที่ต้องการ เราขอแนะนำให้ไปฉีดฟิลเลอร์คาง โดยรีเควสคุณหมอว่าเน้นช่วงปลาย ปรับให้ใบหน้าดูยาว เรียวแบบละมุน แต่ดอกจันท์ไว้อีกนิด อย่าลืมกำชับล่ะว่าไม่เอาทรงแม่มดนะ ไม่งั้นจากปังก็จะพังแทน!

  1. ฟิลเลอร์ปาก จุดเปลี่ยนที่ฉีดแล้วหน้าดูละมุนแบบมีอะไร!

สำหรับใครที่คิดว่า โอเค โครงหน้าฉันเป๊ะอยู่แล้ว เรียวในแบบที่ต้องการและพอใจ แต่กลับไม่ชอบทรงปากที่เป็นอยู่ อาจจะปากบาง มุมปากตก ไม่อวบอิ่ม ทาลิปแล้วตกร่อง หรือขอบปากไม่ชัด การฉีดฟิลเลอร์เพียง 1 CC เนี่ย บอกเลยว่าแก้ไขได้อยู่หมด ยิ่งใครที่มีเนื้อปากอยู่แล้ว ยิ่งให้ความพลัม ปากอิ่มแบบจึ้ง ๆ เลย

  1. คาวาอี้ลดอายุ เติมดออลี่อาย สวยแบบสาวเกาหลี

ปิดท้ายกันที่การฉีดฟิลเลอร์ดอลลี่อาย ที่อาจจะไม่ใช่หัตถการแก้ไขจุดบกพร่อง เพราะการเก็บดอลลี่อายตรงนี้จะเหมาะกับคนที่ไม่มีร่องน้ำตา ใต้ตาลึก โหล หรือจะบอกว่าไปเก็บงานในส่วนนั้น ๆ มาแล้ว หลังจากนั้นมีงบนิดหน่อยก็สามารถมาเติมฟิลเลอร์เจลนิ่ม สร้างดอลลี่อายแบบสวย ๆ ให้ตาดูแบ๊ว หน้าเด็กก็ได้เหมือนกันนะ

ส่วนอื่น ๆ ที่สามารถเติมได้ใน 1 CC ก็ยังมี แต่อาจไม่ได้เปลี่ยนแปลงถึงขั้นเห็นชัด เช่น การเติมเก็บงานผิวใต้ตา การเกลี่ยร่องแก้มที่ยังไม่ลึกมาก เก็บร่องน้ำมากแบบผิว ๆ รวมไปถึงการเติมฟิลเลอร์งานผิวเฉพาะจุดที่เรียกได้ว่าตอบโจทย์คนงบจำกัดจริง ๆ ใครที่ยังไม่ได้ตบเท้าเข้าวงการ ต้องห้ามพลาดแล้วนะ

Leave a Reply

Your email address will not be published.

Explore More

“ผิวเครียด” โรคใหม่ที่คนวัยทำงานอาจเป็นโดยไม่รู้ตัว

วัยทำงานเป็นช่วงวัยที่ต้องเผชิญกับความเครียดและความกดดันค่อนข้างสูง ส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพได้ง่าย ๆ ถ้าไม่ระวัง ซึ่งเราจะขอพาไปทำความรู้จักกับ “โรคผิวเครียด” โรคใหม่ที่คนวัยทำงานอาจเป็นได้โดยไม่ทันรู้ตัว โรคผิวเครียด คืออะไร? “ผิวเครียด” เป็นโรคทางจิตวิทยาผิวหนังเรียกว่า Psychodermatology มีสาเหตุมาจากความเครียดที่เป็นตัวกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนออกมามากกว่าปกติ ส่งผลให้ร่างกายเสียสมดุล กระบวนการทำงานต่าง ๆ ของร่างกายทำงานไม่ปกติ รวมถึงผิวพรรณด้วย ผิวเครียด มีอาการอย่างไร?  ผิวหนังมีอาการระคายเคืองจากการอักเสบภายในร่างกาย ซึ่งมีสาเหตุมาจากระบบย่อยอาหารทำงานไม่เป็นปกติ ทำให้ลำไส้เกิดการอักเสบ ส่งผลให้เกิดสิว โรคสะเก็ดเงิน หรือโรคติดเชื้อทางผิวหนังอื่น ๆ ได้ ผิวขาดความชุ่มชื้นและแห้งเสีย ซึ่งมีสาเหตุจากการผลิตฮอร์โมนที่มีชื่อว่า

Ceramides คืออะไร? ทำไมถึงเป็นส่วนผสมที่ควรมีในสกินแคร์?

เซราไมด์ (Ceramides) เป็นไขมันชนิดหนึ่งที่มีอยู่ในชั้นนอกสุดของผิวหนัง พวกเขาทำงานเพื่อรักษาและฟื้นฟูเกราะป้องกันตามธรรมชาติของผิว เซราไมด์ย่อมาจากเซราไมด์ลิปิด ไขมันเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการบำรุงและฟื้นฟูเกราะป้องกันตามธรรมชาติของผิว สามารถพบได้ในมอยเจอร์ไรเซอร์ ครีมกันแดด และลิปบาล์ม เซราไมด์มีบทบาทสำคัญในการรักษาความชื้นและความยืดหยุ่นของผิว พวกเขายังช่วยให้ผิวแข็งแรงและดูอ่อนเยาว์ ประโยชน์หลักของเซราไมด์ได้แก่: – ส่งเสริมการรักษาบาดแผล – ให้การปกป้องจากรังสี UV – ปรับปรุงความยืดหยุ่นของผิว – ป้องกันริ้วรอย 3 แบรนด์ที่มีส่วนผสมของ Ceramides: Cerave ผลิตภัณฑ์ CeraVe เป็นแพทย์ผิวหนังที่แนะนำโดยมีผลิตภัณฑ์หลากหลายให้เลือก เช่น โลชั่น

หมอผิวหนังแนะนำ! เคล็ดลับการเลือกสกินแคร์ของคนผิวแพ้ง่าย

ใครที่มีปัญหาผิวเซนซิทีฟยอมรู้ดีว่า การเลือกสกินแคร์ดูแลผิวให้ถูกกับหน้านั้น เป็นเรื่องที่ยากมาก ๆ เพราะถ้าสุ่มไปเจอผลิตภัณฑืที่มีสารกระตุ้นแม้แต่เล็กน้อย จากผิวใส ๆ ก็อาจจะเกิดผด ผื่น ตุ่มหนอง แห้งหรือลอกได้โดยที่ทันตั้งตัว  แต่ไม่เป็นไร เพราะวันนี้เรามีเคล็ดลับการเลือกสกินแคร์ของคนผิวแพ้ง่ายที่หมอผิวหนังเป็นคนแนะนำมาฝาก ลองไปดูกันดีกว่าว่าการเลือกให้เซฟ ควรจะต้องดูอะไรประกอบบ้าง? ส่วนประกอบในสกินแคร์ (Key ingredients) แพทย์ผิวหนังแนะนำเลยว่า อันดับแรกของการเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าสำหรับผิวแพ้ง่ายให้ปลอดภัย คือการพิจารณาจากส่วนผสมที่มีประสิทธิภาพในการบำรุงผิวอย่างอ่อนโยน ล้ำลึก พร้อมช่วยปลอบประโลมไม่ให้เกิดอาการระคายเคือง ตัวอย่างเช่น ผิวแพ้ง่ายที่มีสภาพผิวแห้ง อาจต้องมองหาสารสกัดจำพวกกรดไฮยาลูรอนิก, กลีเซอรีน หรือเซราไมด์ เป็นต้น ในขณะเดียวกันถ้าผิวของคุณมีโอกาสเกิดสิวง่าย