การลดน้ำหนักที่แท้จริงไม่ได้โฟกัสอยู่ที่ตัวเลขบนตาชั่งเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องคำนึงถึงรูปร่างและปริมาณไขมันที่ลดลงไป ด้วยเหตุนี้ ไม่เพียงแต่จะให้ความสำคัญในเรื่องของการออกกำลังกายเพื่อลดไขมันเท่านั้น แต่อาหารการกินก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่จะช่วยให้การลดไขมันเพื่อสุขภาพและรูปร่างที่ดีเป็นจริงได้

อย่างไรก็ดี การควบคุมอาหารนี้ไม่ได้หมายถึงการอด ไม่ใช่การใช้อาหารเสริมเพื่อลดความอ้วน แต่จะเป็นการเลือกทานอาหารอย่างเหมาะสมต่อความต้องการของร่างกายควบคู่ไปกับการออกกำลังที่ถูกต้องนั่นเอง โดยการทำ Calorie Deficit ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีควบคุมอาหารสามารถช่วยลดไขมันได้อย่างถูกต้องและปลอดภัยเช่นกัน แล้ว Calorie Deficit คืออะไร จำเป็นต่อการลดไขมันมากน้อยแค่ไหน มารู้จัก Calorie Deficit ได้ที่นี่เลย!

Calorie Deficit คืออะไร?

หลักการง่าย ๆ ของ Calorie Deficit คือ การรับพลังงานเข้าไปให้น้อยกว่าพลังงานที่ใช้ ซึ่งการรับพลังงานนี้จะคำนวณจาก BMR ซึ่งเป็นพลังงานพื้นฐานที่ร่างกายจำเป็นต้องใช้ ตลอดจนพิจารณากิจกรรมที่ทำเป็นพื้นฐานในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นการนั่งทำงานเฉย ๆ ไปจนถึงการออกกำลังกายด้วยความเข้มข้นในระดับต่าง ๆ

หากใครยังนึกภาพไม่ออกล่ะก็ สามารถลองคำนวณ BMR ตัวเองขั้นพื้นฐานจากสูตร ดังนี้

  1. ผู้ที่มีร่างกายเป็นเพศชาย

BMR = 10 x น้ำหนักตัว (กิโลกรัม) + 6.25 x ส่วนสูง (เซนติเมตร) – 5 x อายุ (ปี) + 5

  1. ผู้ที่มีร่างกายเป็นเพศหญิง

BMR = 10 x น้ำหนักตัว (กิโลกรัม) + 6.25 x ส่วนสูง (เซนติเมตร) – 5 x อายุ (ปี) – 161

Calorie Deficit ช่วยลดไขมันได้อย่างไร?

เมื่อได้ BMR แล้วก็ให้คูณความหนักของกิจกรรมเข้าไป ซึ่งหากเป็นกิจกรรมระดับเบา เช่น การทำงานเฉย ๆ ไม่มีการออกกำลังกายมาเกี่ยวข้องก็ให้คูณ 1.2 และหากเป็นคนที่ออกกำลังระดับหนักขึ้นมาอย่างการไปเวทเทรนนิ่งและคาร์ดิโอก็ให้คูณ 1.375 – 1.9 ตามความหนักหน่วงนั่นเอง

และเมื่อคำนวณพลังงานที่ใช้ทั้งหมดได้แล้ว ทีนี้ก็ถึงขั้นตอนในการเลือกรับพลังงานจากการกินให้เหมาะสม โดยพื้นฐานแล้ว หาก Calorie Deficit สะสมได้ 7,700 แคลอรีก็จะสามารถลดไขมันได้ 1 กิโลกรัม 

ตัวอย่างเช่น หากเราเป็นคนที่ไม่ได้ออกกำลังกาย และมี BMR อยู่ที่ 2,000 แคลอรีต่อวัน ถ้าเราปรับการกินให้อยู่ที่วันละ 1,800 แคลอรี ก็จะมี Calorie Deficit อยู่วันละ 200 แคลอรี ดังนั้น หากทำแบบนี้ต่อเนื่อง 40 วันก็จะสามารถลดไขมันได้ 1 กิโลกรัมนั่นเอง ซึ่งหากเรามีการควบคุมอาหารและออกกำลังกายที่เหมาะสมร่วมด้วยก็จะสามารถลดไขมันได้เร็วขึ้น แต่ปลอดภัยต่อร่างกายนั่นเอง

อย่างไรก็ดี การทำ Calorie Deficit นี้ยังต้องมีการคำนวณสารอาหารที่เหมาะสม เพียงพอ และจำเป็นต่อความต้องการร่างกายร่วมด้วย ซึ่งจะมีการคำนวณค่า TDEE และคำนวณสารอาหารคิดเบื้องต้นเป็นคาร์โบไฮเดรต 50% โปรตีน 30% และไขมัน 20% ของค่า TDEE ที่ได้เพื่อความปลอดภัยในการลดไขมันและไม่โยโย่นั่นเอง

Leave a Reply

Your email address will not be published.

Explore More

แจกวิธีดูแลผิวให้สุขภาพดีเมื่อเข้าสู่หน้าฝน

เข้าสู่หน้าฝนแบบนี้ ใช่ว่าจะไม่มีปัญหาผิว! เพราะด้วยอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อยและความชื้นที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงละอองฝนที่เต็มไปด้วยสิ่งสกปรก เป็นปัจจัยที่ทำให้ผิวของเราถูกทำร้ายได้ไม่แพ้ช่วงเวลาอื่น ๆ เลยทีเดียว ชวนดูเคล็ดลับดูแลรักษาผิวเมื่อเข้าสู่หน้าฝน ให้เรามีผิวสวยใสสุขภาพดีได้ทุกฤดู เคล็ดลับดูแลผิวเมื่อเข้าสู่หน้าฝน 1. ใช้ครีมที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เมื่อเข้าสู่หน้าฝน ความชื้นในอากาศก็จะเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ผิวหน้าของเราสูญเสียความชุ่มชื้นไปด้วย และเมื่อผิวของเราขาดความชุ่มชื้น จะทำให้ผิวแห้งกร้าน ลอกเป็นขุย บางครั้งอาจผลิตน้ำมันส่วนเกินออกมาเพิ่ม ทำให้ผิวของเรามันเยิ้ม แต่งหน้าไม่ติด และกลายเป็นปัญหาสิวอีกด้วย ฉะนั้นแล้วสิ่งที่จะช่วยได้ก็คือการเลือกใช้ครีมบำรุงผิวที่เติมเต็มความชุ่มชื้นเพื่อให้ผิวยังดูสุขภาพดี 2. ใช้ครีมกันแดดเป็นประจำ ในช่วงอากาศที่ครึ้มฟ้าครึ้มฝน เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว แม้แสงแดดจะดูเบาบางลงแต่แท้จริงแล้วรังสียูวีก็ยังคงมีอยุ่ทุกที่ หากละเลยการทาครีมเมื่อไหร่ย่อมทำให้เกิดปัญหาผิวได้อย่างแน่นอน ดังนั้นครีมกันแดดจึงยังคงเป็นไอเทมสำคัญที่ขาดไม่ได้เด็ดขาดไม่ว่าจะฤดูไหน

ไขข้อสงสัย? Ulthera เจ็บไหม? ต้องดูแลหลังทำอย่างไร?

ulthera

สำหรับสาว ๆ ที่เริ่มรู้สึกว่าใบหน้าหย่อนคล้อย ไม่ได้รูป รู้สึกใบหน้าไม่กระชับ มีริ้วรอย ทำให้ดูแก่กว่าวัย สนใจอยากลองใช้บริการ  Ulthera แต่สงสัยว่าทำแล้วเจ็บไหม? เราจะพาคุณไปไขข้อสงสัย? Ulthera เจ็บไหม? ต้องดูแลหลังทำอย่างไร? อยากรู้แล้ว ตามไปดูกันได้เลย Ulthera คืออะไร?  Ulthera เป็นการยกกระชับใบหน้า ด้วยการใช้นวัตกรรมคลื่นเสียงอัลตราซาวนด์ ยิงลงไปใต้ชั้นผิว ลึกถึงผิวหนัง ที่ชั้น Smas เพื่อทำให้ผิวเกิดการหดตัว และยกกระชับใบหน้าขึ้น โดยเป็นการทำการยกกระชับไม่ต้องเสียเวลาในการพักฟื้น แต่คงสงสัยว่าแล้วทำ Ulthera

เลือกสายแปลง USB-C To Ethernet ให้ใช้ได้นาน ไม่ทำร้ายเครื่อง

ในปัจจุบันวงการ IT โน๊ตบุ๊ค นับได้ว่ามีการแข่งขันสูงเพราะมีหลายค่ายดังที่พร้อมลงสนามต่อสู้กันอยู่ ทั้งในแง่ของสเป็คตัวเครื่อง รวมถึงรูปแบบดีไซน์ที่ในปัจจุบันยิ่งเครื่องเล็กยิ่งดึงดูดใจได้ เพราะคงไม่มีใครอยากอุ้มเครื่อง Laptop ขนาดใหญ่ไปไหนมาไหน โดยเฉพาะกับคนที่ต้องเดินทางเองทั้งขึ้นรถเมล์ BTS MRT การต้องแบกโน๊ตบุ๊คเครื่องใหญ่ไปไหนมาไหนคงไม่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตแน่นอน แต่ถึงแม้ว่าขนาดที่กะทัดรัดจะช่วยให้คนเมืองใช้ชีวิตง่ายขึ้นได้จริง แต่อาจมีปัญหาเกี่ยวกับสายพอร์ตต่าง ๆ ที่มีรูน้อยลง ไม่สามารถเสียบได้มากเหมือนเมื่อก่อน จึงมีสายแปลง USB-C มากมาย เพื่อให้สะดวกต่อการใช้งาน  รวมถึงการเดินสายอินเตอร์เน็ตในบ้านก็หาพอร์ตใส่ไม่ได้เช่นกัน ดังนั้นการมีเครื่องช่วยเหลือในการแปลง USB-C To Ethernet จึงเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นมาก เป็นการแปลง USB-C