ปัจจุบันศาสตร์ไคโรแพรคติก (Chiropractic) หรือที่เรียกง่าย ๆ ว่าการจัดกระดูก เป็นที่นิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ในประเทศไทย ด้วยสรรพคุณที่เชื่อว่าสามารถแก้อาการไมเกรน ออฟฟิศซินโดรม และปัญหาทางด้านกายภาพต่าง ๆ อีกมากมายที่ผู้ป่วยหลายคนเคยรักษาด้วยวิธีอื่นแล้วไม่หายขาดอย่างที่ใจต้องการ ไคโรแพรคติกจึงเป็นศาสตร์การแพทย์ทางเลือกอีกวิถีหนึ่งที่ผู้ป่วยหลายคนยินดีที่จะลอง เช่นเดียวกับการแพทย์แผนจีน หรือการทำกายภาพบำบัด

คำว่าไคโรแพรคติก (Chiropractic) มีรากฐานมาจากภาษากรีก คือ Χειρ (Cheir) ซึ่งแปลว่า มือ และ Πρακτικας (Praktikas) ซึ่งแปลว่า วิธีปฏิบัติใช้ได้จริง เมื่อผสมกันจึงมีความหมายว่า การรักษาด้วยมือ ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขของไทยได้ให้ความหมายของ “ศาสตร์ไคไรแพรคติก” ไว้ว่าเป็น การกระทำต่อมนุษย์เกี่ยวกับการตรวจ การวินิจฉัย การบำบัดอาการ และส่งเสริมสุขภาพของร่างกายเฉพาะในส่วนของกระดูกสันหลังและเนื้อเยื่อที่เกี่ยวข้องโดยไม่มีการใช้ยาหรือการผ่าตัด

อันที่จริงไคโรแพรคติกนั้นเป็นศาสตร์สากลที่มีการศึกษาและได้รับการยอมรับจากต่างประเทศ และมีหลักสูตรการเรียนการสอน เช่นที่ Georgia Institule of Technology, El Camino College, University of California, Syracuse University & University of Wisconsin ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหลักสูตร 4 ปีเฉกเช่นเดียวกับนักกายภาพบำบัด และเริ่มมีนักไคโรแพรคเตอร์เข้ามาให้การรักษาในประเทศไทยมานานกว่า 20 ปี 

แนวทางการรักษาของไคโรแพรคติก เป็นการรักษาแบบ Non-Invasive หรือ การรักษาที่ไม่รุกรานไปใต้ผิวหนัง แต่จะเน้นเทคนิคการบำบัดข้อกระดูก (Therapy) ฟื้นฟูกล้ามเนื้อที่มีปัญหา มีการปรับโครงสร้างเพื่อทำให้กระดูกสันหลังขยับได้ปกติและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องอาศัยยาและการผ่าตัด โดยเป็นศาสตร์ที่ให้ความสำคัญกับกระดูกสันหลัง (Spine) ระบบประสาท (Nervous System) ลักษณะโครงสร้างของร่างกาย (Structure) และโภชนาการด้านอาหาร วิตามิน (Nutrition)

แต่อย่างไรก็ตาม ศาสตร์ไคโรแพรคติกยังไม่มีกฎหมายไทยรับรองเป็นพระราชบัญญัติ แต่เปิดช่องอนุญาตให้มีการประกอบวิชาชีพที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและเป็นทางเลือกทางการแพทย์ โดยอยู่ในส่วนของการประกอบโรคศิลปะ ซึ่งก็คือ “กิจการใด ๆ อันกระทำโดยตรงต่อร่างกายของมนุษย์ในการบำบัดโรค ซึ่งรวมตลอดถึงการตรวจโรค และป้องกันโรคในสาขาต่าง ๆ” 

ดังนั้น ผู้ที่จะให้บริการไคโรแพรคติก อันถือเป็นศาสตร์หรือความรู้จากต่างประเทศนี้ แม้จะสำเร็จหลักสูตรการศึกษาไคโรแพรคติกจากต่างประเทศ แต่ก็ต้องมี “ใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะโดยอาศัยศาสตร์ไคโรแพรคติก” จากกระทรวงสาธารณสุขของไทยเสียก่อน 

แน่นอนว่าเพื่อให้มั่นใจถึงคุณภาพและการตรวจรักษาด้วยศาสตร์ไคโรแพรคติกที่ต้องกระทำต่อกระดูกสันหลังและข้อต่อต่าง ๆ ของผู้ป่วยโดยตรงซึ่งมีความละเอียดอ่อนสูง ทุก ๆ ขั้นตอนการรักษาจึงมีความสำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งกระดูก หรือน้ำหนักการกด การดัด ปรับ เพราะหากพลาดพลั้งไป นั่นหมายถึงการเพิ่มความเจ็บป่วยและเกิดอาการที่ร้ายแรงมากกว่าเดิม ดังนั้น การสอบใบอนุญาตของศาสตร์ไคโรแพรคติกจึงต้องมีการสอบทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ 

เช่น ภาคทฤษฎีวิชาพรีคลินิก (Pre Clinic) ภาควิชากฎหมายและจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ ภาคทฤษฎีสาขาวิชาชีพเฉพาะ (Chiropractic) ภาคการประเมินทักษะการตรวจวินิจฉัยวิชาชีพไคโรแพรคติก สอบสัมภาษณ์จรรยาบรรณแห่งวิชาชีพและเจตคดิต่อวิชาชีพไคโรคแพรคติก เป็นต้น 

โดยจะมีการประกาศรายชื่อผู้ที่มีคุณสมบัติเพื่อขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะโดยอาศัยศาสตร์ไคโรแพรคติกผ่านเว็บไซต์ของกองสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ และเมื่อได้รับใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะแล้ว จะมีอายุการใช้งาน 2 ปีและต้องดำเนินต่อใบอนุญาตใหม่อีกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าประสิทธิภาพการรักษาของผู้ที่ใช้ศาสตร์ไคโรแพรคติกนั้นยังมีคุณภาพที่ดีอยู่เสมอ

หากครั้งใดที่ตัดสินใจลองทำการรักษาด้วยวิธีการจัดกระดูก อย่าลืมพิจารณาถึงใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะด้วยทุกครั้ง เพื่อความมั่นใจของตัวคุณเองว่าจะได้รับการรักษาจากนักไคโรแพรคเตอร์ที่เชี่ยวชาญและดีที่สุด

Leave a Reply

Your email address will not be published.

Explore More

ท้องผูกบ่อย ต้องเสริมกำลังลำไส้ด้วยผลไม้เหล่านี้ ที่ช่วยเรื่องขับถ่าย!

ท้องผูกบ่อยมาก ผ่านไปหลายวันแล้วก็ยังไม่ถ่ายสักที จนอึดอัดไปหมดแล้ว! ใครกำลังมีปัญหาแบบนี้อยู่บ้าง? ไม่ต้องห่วงไป เพราะวันนี้เรามีตัวช่วยอย่างผลไม้ที่มีกากใบสูงมาแนะนำกัน เพื่อช่วยให้ลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น ช่วยให้ขับถ่ายได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น แถมยังมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์มากมายอีกด้วย ไปดูกันเลยว่ามีผลไม้ชนิดไหนบ้างที่ช่วยเรื่องอาการท้องผูกได้อย่างมืออาชีพ มะละกอสุก ตัวช่วยเรื่องกากใยอาหาร มะละกอสุกนั้นถือว่าเป็นตัวช่วยอันดับหนึ่งของการช่วยแก้ไขอาการท้องผูกเลยทีเดียว เพราะในมะละกอสุกนั้นจะมีสารที่เรียกว่า “เพกทิน” ซึ่งทำหน้าที่ดูดซับเอาน้ำในลำไส้ของเรา และพองตัวขึ้นจากปกติ ซึ่งเจ้าก้อนนี้นี่แหละที่เข้าไปช่วยทำการดันผนังลำไส้เพื่อให้เกิดการบีบตัวและเกิดการขับถ่าย เพราะแบบนี้จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมะละกอจึงกลายเป็นหนึ่งในผลไม้ที่ผู้คนทั่วโลกมักจะนึกถึงเป็นอันดับแรก ๆ เมื่อมีอาการท้องผูก ลูกพรุน ตัวช่วยขับถ่ายคล่อง ลูกพรุนก็เป็นอีกหนึ่งผลไม้ที่ได้รับการยอมรับว่าช่วยทำให้ขับถ่ายสะดวกมากยิ่งขึ้น เพราะนอกจากลูกพรุนจะมีกากใยอาหารที่ค่อนข้างสูงแล้ว ก็ยังสามารถช่วยเพิ่มปริมาณของเชื้อจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้ได้อีกด้วย นั่นหมายความว่าลำไส้จะทำงานได้ดีขึ้น ใช้เวลาในการขับถ่ายน้อยลง และมีน้ำตาลซอร์บิทอล (Sorbitol)

Hello world!

Welcome to WordPress. This is your first post. Edit or delete it, then start writing!

คลีนซิ่งสำหรับผิวมัน หน้ามันแค่ไหนก็รอดเอาอยู่แน่นอน!

ท่ามกลางตลาดความสวยความงามในยุค 4.0 นี้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่านอกจากเครื่องสำอางจะกลายมาเป็นปัจจัยที่ 5 ในการดำรงชีวิตของสาวๆ หลายคนแล้ว ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเครื่องสำอางหรือคลีนซิ่งก็กลายมาเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่จำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสาวๆ ที่ผิวมันหลายคนที่อาจจะมีคำถาม เลือกใช้คลีนซิ่งสำหรับผิวมันอย่างไรให้เหมาะสม สูตรไหนที่ไม่ทำให้ผิวแพ้ ระคายเคือง หรือเป็นสิวเพิ่ม มาหาคำตอบไปด้วยกันจากบทความนี้เลย ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเครื่องสำอางสูตรน้ำหรือที่รู้จักกันสั้นๆ ว่าคลีนซิ่งสูตรน้ำ หนึ่งในคลีนซิ่งสำหรับผิวมันยอดนิยม เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่สาวหน้ามัน คุณสมบัติเด่นคือใช้งานง่าย ให้ความรู้สึกสบายผิวหลังเช็ดเสร็จ ไม่เหนียวเหนอะหนะ หลังเช็ดทำความสะอาดเสร็จก็สามารถล้างน้ำเปล่าแล้วตามด้วยโฟมล้างหน้าได้เลย ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวสูตรน้ำมัน อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเครื่องสำอางสูตรออยล์ (Oil) คลีนซิ่งสำหรับผิวมัน ที่แม้ว่าจะสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะทำให้ผิวอุดตันหรือหน้ามันเพิ่ม คุณสมบัติเด่นคือสามารถละลายเมคอัพที่ล้างออกยากหรือเมคอัพกันน้ำได้อย่างสะอาดหมดจด ไม่ก่อให้เกิดความระคายเคืองบนผิว